2021 โปรไบโอติคมาแน่ เทรนด์ใหม่ดูแลสุขภาพเริ่มก่อนรวยก่อน

fetauted image

โปรไบโอติกส์ (Probiotics) คือ

เป็นเชื้อจุลินทรีย์และยีสต์ในกลุ่มที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และการทำงานของโปรไบโอติกจะช่วยเสริมการทำงานของแบคทีเรียชนิดที่ดีภายในร่างกาย เพื่อให้กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ดำเนินไปอย่างปกติ โดยโปรไบโอติกจะช่วยปกป้องผนังทางเดินอาหาร ยับยั้งเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่เป็นต้นเหตุหนึ่งของการติดเชื้อและการอักเสบต่างๆ โดยจะช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานเป็นปกติโดยเฉพาะระบบทางเดินอาหารมีส่วนช่วยในการดูดซึมสารอาหาร และระบบภูมิคุ้มกัน

โปรไบโอติกส์


ข้อเสียของโพรไบโอติกส์

มักเกิดจากการได้รับโปรไบโอติกจำนวนมากเกินไป หรือได้รับโพรไบโอติกส์ในขณะที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่น ในขณะได้ยาเคมีบำบัด หรือขณะมีเม็ดเลือดขาวต่ำ หากรับประทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ และมีรายงานว่าการติดเชื้อนี้ อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นผู้ป่วยทุกโรครวมถึงโรคมะเร็ง เมื่อต้องการบริโภคอาหารที่มีโปรไบโอติกควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย


งานวิจัยของ Kaur และคณะ ได้กล่างไว้ว่า โปรไบโอติกมีคุณสมบัติปรับสมดุลลำไส้ของมนุษย์ยังสามารถป้องกันโรคท้องร่วงเพิ่มภูมิคุ้มกันป้องกันมะเร็ง และลดระดับโคเลสเตอรอลเชื่อ Lactobacilus และ Bifidobacterium อยู่ในระบบทางเดินอาหารส่วนที่เป็นลำไส้ใหญ่

ข้อมูลงานวิจัยจากนำมาจาก: www.oservice.skru.ac.th

โปรไบโอติก1



โปรไบโอติกดีกว่าไฟเบอร์อย่างไร?

“โปรไบโอติกส์” คือ สิ่งที่ในร่างการเรามีอยู่แล้ว และไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกายอีกทั้ง ยังช่วยคืนสมดุลให้ระบบขับถ่าย ให้การขับถ่ายเป็นปกติทุกวัน ฟื้นฟูจากอาการลำไส้แปรปรวน ท้องผูกเรื้อรัง ท้องเสียเรื้อรัง ป้องกันท้องร่วงจากลำไส้อักเสบ ช่วยให้ขับถ่ายอย่างมีสมดุล ขับถ่ายทุกวัน ไม่มากไม่น้อยครั้งจนเกินไป ช่วยขับถ่ายอุจจาระตกค้างออกจากร่างกาย ลดผลเสียที่เกิดจากอุจจาระเป็นพิษเน่าเสีย เช่น สิวเรื้อรัง อาการอ่อนเพลียไม่ทราบสาเหตุ ป่วยง่าย ติดเชื้อง่าย และเสริมภูมิต้านทาน แตกต่างกับ 

“ไฟเบอร์” ที่เป็นสิ่งที่เราทานเข้าไปเพื่อกระตุ้นการขับถ่ายเมื่อเราทานเข้าไปจะทำงานของ การย่อยอาหารช้าลง ดูดน้ำบริเวณรอบๆทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ และอาจทำให้ท้องผูกในที่สุด และยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น ท้องอืด เกิดแก๊สส่วนเกิน รู้สึกจุกเสียด ปวดท้อง ท้องผูกหรือท้องร่วง มีภาวะร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง หรือ การดูดซึมสารอาหารที่สำคัญบางอย่างไม่ดี และเกิดการอุดตันในลำไส้เล็กในบางกรณี

image


ในปี 2012 มีการศึกษาทดสอบผลของการเปลี่ยนแปลงปริมาณไฟเบอร์ของคนที่มีอาการท้องผูกท้องอืด และปวดท้องจำนวน 63 ราย พบว่า การบริโภคใยอาหารที่มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร เนื่องจาก ไฟเบอร์จะ ทำให้ร่างกายดูดซับสารอาหารที่จำเป็นได้น้อยลง ทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุต่าง ๆเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม สังกะสี เหล็ก เป็นต้น ที่มาของข้อมูล: www.dragonfishherb.com


สรุปได้ว่าการทาน “โปรไบโอติกส์” ย่อมดีกว่า“ไฟเบอร์”แน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ร่างกายเรามีอยู่แล้ว หากเราทานทานเพิ่มเข้าไปจะไม่ส่งผลเสียใดๆต่อร่างกายแถมยังช่วยประสมดุลระบบขับถ่ายอีกด้วย และไม่ส่งผลเสียใดๆต่อร่างกายของเราเลย

ปรึกษาทีมงานผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเรื่องการสร้างธุรกิจสุขภาพและความงามได้ที่

โทร. 095-881-5451

LINE : @nutrimaxinnovation 

หรือกดที่ลิงค์เพื่อแอดไลน์ https://lin.ee/eC7BsoE 

E-mail : nutrimaxinnovation@gmail.com

Facebook : https://www.facebook.com/nutrimaxinno

Website : https://www.nutrimax-innovation.com